หนีงานไปเที่ยว ปีนัง มาเลเซีย | Savecyber Blog
จากวันหยุดที่ติดต่อกันสาม – สี่วัน เราจึงมองหาทริปการท่องเที่ยว แบบ เดินสนุก ลุกนั่งสบาย ในแบบ Savecyber ทริปวางแพลนการท่องเที่ยวไม่นาน เนื่องจากหลังจากทริปสิงคโปร์ กลับมาก็กลายเป็น โรค Wanderlust เสพติดการท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของทริป ปีนังนี้ เริ่มกันตั้งแต่วันเดินทาง
เราเดินทางโดยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย จากสนามบินดอนเมือง ไปลง สนามบินปีนัง ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่เลือกเดินทางแบบนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่คนไทยส่วนจะนั่งเครื่องไปลงที่หาดใหญ่ก่อนนั่งรถตู้จากหาดใหญ่ไปปีนัง
แต่เพราะด้วยเวลาน้อยผมเลยเลือกไปลง ที่ปีนังเลย พอถึงสนามบินปีนัง
> ก็นั่งรถเมล์ สาย 102, 401, 401E (สายไหนก็ได้) ค่าโดยสารประมาณราคา 2.70 Rm ไปลงที่ตึก Komtar ที่อยู่กลางเมือง (ซึ่งตอนเราไปไม่มีแบงค์เล็กเลย โชเฟอร์บอกให้ไปแลกเงินก่อนค่อยมาขึ้น แนะนำเตรียมเงินให้พอดีกับค่าโดยสารนะครับเพราะเขาไม่มีเงินทอนให้นะครับ)
พอถึงที่ Komtar เราก็เดินจาก ตัวตึกตามกูเกิลแม็พไปที่พัก ที่พักวันนี้เราจองไว้ที่ apollo inn จองไว้แบบโฮสเทล พร้อมอาหารเช้า
หลังจากเช็คอิน ก็ออกไปหาอะไรกินกัน อาหารในปีนังส่วนใหญ่ เป็นอาหารจีน รสชาติก็จะเป็นแบบจีนๆ ราคาพอๆกับกรุงเทพ
เช้าวันที่ 2 ใน ปีนัง มาเลเซีย เราเลือกเดินทางด้วย Hop on Hop off เป็นรถเมล์ทัวร์จอดตามสถานที่ท่องเที่ยวรอบเกาะปีนัง โดยราคาอยู่ที่วันละ 40 RM
ถ้าที่ที่ไหนเราไม่ลงก็นั่งดูไปเรื่อยๆรอบเกาะได้ ตามภาพ
จะมีทั้งแบบวนขวาและวนซ้าย เราเลือกที่จะนั่งดูสถานที่ท่องเที่ยวไปเรื่อยๆก่อน แล้วก็เลือกลงที่ วัดไทย กับวัดพม่า ประจำปีนัง หรือเกาะหมากในอดีตของไทย
ซึ่งวัดทั้งสองแห่งอยู่ตรงข้ามกัน ไม่เสียค่าเข้าชม
และอีกที่ ที่เราลงไปชมความสวยงามคือ พิพิธภัณฑ์ แมลง (ภายในถ่ายรูปไม่ได้เลยไม่มีรูปมาฝากนะครับ) และอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ใกล้ๆกัน
และอีกที่ ก่อนจะกลับที่พัก คือบริเวณโบสถ์คริส ในปีนัง
เราเลือกที่จะเช่ารถมอไซต์เที่ยวในวันถัดไปนะครับ โดยค่าเช่าจะอยู่ประมาณ 250 บาทต่อวัน
เช้าวันที่ สาม เก็บรูปสตรีทอาร์ตใน จอร์ดทาวน์
ถ้าเดินจะสนุกกว่ามากแต่แดดวันนั้นแรงมากเลยไม่ไหว โกงโยการขี่มอเตอร์ไซต์แทน
โดยรอบเมืองจะมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ มากมายให้เดินเล่นแวะกิน แวะเที่ยวอีกด้วย
โดยทริปนี้ก็จบลงกับความประทับใจ กับสถานที่ท่องเที่ยงในเมืองปีนัง มาเลเซีย จากกันพร้อมภาพสะพานที่ยาวที่สุดในอาเซียน