โต๊ะทำงาน ราคาถูก

โต๊ะทำงาน ราคาถูก – โต๊ะทำงานจัดเป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่มีความสำคัญมากที่ สุดภายในบ้าน โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้หลายคนจำเป็นที่จะ ต้องทำงานแบบ Work From Home หรือเรียนออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นโต๊ะทำงาน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ซึ่งการที่จะเลือกโต๊ะทำงาน ให้มีความเหมาะสมกับตนเองและเหมาะสมกับพื้นที่ภายในบ้านของเรา ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ท้าทายเลยทีเดียว หากคุณไม่มีประสบการณ์เกี่ยวการซื้อโต๊ะทำงาน ส่งผลให้คุณเลือกโต๊ะทำงาน ที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่ง โต๊ะทำงาน ที่ไม่มีคุณภาพส่งผลให้ ประสิทธิภาพการทำงานของ คุณด้อยลงไปด้วย จนในที่สุดคุณจะต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยน โต๊ะทำงานบ่อย ๆ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น

 

การเลือก โต๊ะทำงาน ราคาถูก

1.เลือกโต๊ะทำงานให้เหมาะกับพื้นที่ภายในห้องของคุณ

อันดับแรกคุณจะต้องวัดขนาด พื้นที่ภายในห้องที่คุณก่อน เพราะโต๊ะทำงานนั้นมี ให้เลือกหลากหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ ดังนั้นการวัดขนาดพื้นที่ ภายในบ้าน จะช่วยให้คุณตัดสินใจ เลือกซื้อโต๊ะทำงาน ได้ง่ายมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าห้องทำงาน ของคุณมีขนาดเล็ก เราแนะนำ ให้เลือกโต๊ะทำงานที่มี ขนาดเล็กลงไปด้วย เพื่อไม่ให้ไปเกะกะ ขว้างทางเดิน หรือถ้าใครมีห้องทำงานขนาดใหญ่ คุณควรใช้เป็น โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ เพื่อให้ห้องไม่ดูโล่งเกินไป เป็นต้น

2.เลือกโต๊ะทำงานที่มีลิ้นชักเก็บของ

เราไม่แนะนำให้คุณ ใช้โต๊ะทำงานที่ไม่มี ลิ้นชักเก็บของ เพราะจะทำให้คุณไม่สามารถ เก็บเอกสารหรือรายงานต่าง ๆ ที่สำคัญได้อย่างปลอดภัย และเอกสารหรือสิ่งของต่าง ๆ เกะกะเป็นอุปสรรค ในการทำงานอีกด้วย ดังนั้นถ้าจะให้ดี ให้คุณเลือกโต๊ะทำงาน แบบมีลิ้นชักเก็บของ จะทำให้คุณสะดวกสบายในการทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าเอกสารหรือ สิ่งของเครื่องใช้จะเยอะ ก็ไม่เป็นปัญหา สามารถเก็บใส่ลิ้นชัก ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และหยิบมาใช้ งานสะดวก ช่วยเร่งประสิทธิภาพ ในการทำงานได้ อย่างรวดเร็วมากขึ้น

3.เลือกโต๊ะทำงานในสไตล์ที่ชอบ

ถ้าหากเลือกคุณต้อง เลือกโต๊ะทำงานซักตัว นอกจากความแข็งแรง ทนทานแล้ว ความสวยงามก็ เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน เพราะการทำงาน จะต้องใช้เวลาในการอยู่กับ โต๊ะทำงานเป็นเวลานาน ดังนั้นหากคุณเลือก เป็นโต๊ะทำงานที่ ตนเองชอบส่งผลให้คุณไม่รู้สึกเบื่อหนายกับการทำงาน และทำให้คุณมีสมาธิกับการทำงานมากยิ่งขึ้น โทนสีเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกโต๊ะทำงานสีที่ตนเองชอบ รวมถึงวัสดุด้วยบางคนชอบพื้นผิวไม้เรียบเนียน สามารถปรับแต่งและเลือกตามที่ตนเองต้องการ

4.เลือกโต๊ะทำงานที่มีความแข็งแรงทนทาน

การที่ตัดสินใจเลือกซื้อโต๊ะทำงานซักตัว คุณจะต้องแน่ใจก่อนว่า โต๊ะทำงานสามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปี เพื่อไม่ให้คุณจะต้อง เสียเงินเพื่อเปลี่ยนโต๊ะทำงานบ่อย ๆ ถ้าจะให้เราแนะนำ โต๊ะทำงานควรเลือก ใช้เป็นวัสดุไม้เนื้อแข็ง เพราะจะมีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าวัสดุ ไม้ประเภทอื่น ๆ และยังทนทานต่อรอยขีดข่วนได้อีกด้วย หากคุณต้องการความคุ้มค่า ในระยะยาว ควรให้ความสำคัญ ในเรื่องของวัสดุเป็นอันดับแรก

5.เลือกโต๊ะทำงานที่มีช่องเก็บสายไฟ

เชื่อว่าหลายคนที่ ใช้คอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน จะต้องมีปัญหา ในเรื่องของสายไฟอย่างแน่นอน เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเป็นที่จะต้องพ่วงสายไฟที่เยอะ ถ้าไม่มีการจัดเรียงให้ดี ส่งผลให้เกิดปัญหา สายไฟพันยุ่งเหยิง และส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน และโต๊ะทำงาน ไม่น่ามองอีกด้วย ดังนั้นการเลือกโต๊ะทำงาน ที่มีช่องเก็บสายไฟ จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และทำให้โต๊ะทำงาน ของคุณเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น

6.เลือกโต๊ะทำงานที่มีพื้นที่เพียงพอต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ

สำหรับใครที่ ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน เราแนะนำให้คำถึงขนาด ของโต๊ะทำงานด้วย เพราะโต๊ะทำงาน บางรุ่นมีขนาดพื้นที่ คับแคบและไม่สามารถรองรับน้ำหนักของ เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ดังนั้นโต๊ะทำงานที่ดีจะต้องรองรับอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด เช่น จอ เคส เมาส์ คีย์บอร์ด เครื่องปริ้น และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ และสามารถจัดวางได้เป็น สัดส่วนโดยไม่เกะกะพื้นที่ในการทำงาน สามารถเว้นช่วงระยะห่างได้อย่างเหมาะสม

7.เลือกโต๊ะทำงานให้เหมาะสมกับสไตล์ห้องของคุณ

ก่อนที่คุณจะเลือกซื้อโต๊ะทำงาน ให้คุณลองจินตนาการว่า ถ้านำโต๊ะไปจัดวางในห้อง มีความเหมาะสมกับ บรรยากาศห้องหรือไม่ เพราะโต๊ะทำงานมีหลากหลายสไตล์ ซึ่งบางทีอาจจะไม่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมภาย ในห้องของคุณ ดังนั้นหากคุณต้องการ ให้ห้องของคุณดูสวยงามไปด้วย คุณควรใส่ใจในการเลือกซื้อโต๊ะทำงาน ให้เหมาะสมกับ สไตล์ห้องของคุณ ยกตัวอย่างเช่นกำแพงห้องสีขาวเลือกใช้เป็นโต๊ะโทนสีอ่อน เพื่อความกลมกลืน นอกจากนี้การเลือกทำงานให้เหมาะ กับห้องของคุณยังช่วย เพิ่มวิสัยทัศน์ให้ห้องของ คุณดูกว้างมากขึ้นอีกด้วย

การจัดโต๊ะทำงาน

1. ความเป็นระเบียบคือหัวใจสำคัญ

     แค่ข้อแรกมาก็ดูเหมือนจะง่าย แต่ในความเป็นจริง แล้วหลายๆ คนก็ตกม้าตายกันตั้งแต่ ข้อนี้กันมากมาย เพราะหากลองนึกง่าย ๆ ดูว่า หากโต๊ะเราไม่ได้มีการจัดเก็บของให้เป็น ระเบียบเรียบร้อยแล้ว ในแต่ละวันเรา จะต้องเสียเวลาไปกับการตามหา ของสักขนาดไหน เพราะเดี๋ยวก็หาไอนั่นไม่เจอ ไอนี่ไม่เจอ หรืออย่างแย่กว่านั้นบางทีของที่ ตามหาก็สูญหายไปเลย จากความรกยุ่งเหยิงบนโต๊ะ และเมื่อเป็นอย่างนั้น ก็มักจะทำให้คนเกิดอาการหงุดหงิด หัวร้อนก่อนที่จะเริ่มงาน หรือในระหว่างทำงานกันไปอีก ความรกบนโต๊ะ จึงมีผลต่ออารมณ์ในการ ทำงานเป็นอย่างมาก

2. ใส่ความเป็นตัวตนเข้าไปในการจัดโต๊ะ

     เมื่อโต๊ะเป็นระเบียบ ได้แล้วก็ลองขยับมาสู่ขั้นต่อไป กับการพยายามจัดโต๊ะ ให้ตรงกับแนวทาง (ด้านดี) ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับโต๊ะที่ออฟฟิศ การจัดวางของต่างๆ เสมือนเป็นการแสดงตัวตนบาง อย่างของเราออกมาอยู่ไม่น้อย และการจัดโต๊ะออกมาอย่างมีสไตล์ (บนความไม่รก) ก็แสดงออกมาดึงความ Professional ออกมาได้เหมือนกัน และนอกจากนี้ยัง มีผลการศึกษาที่ออกมาว่า การจัดโต๊ะที่บ่งบอกถึง ความเป็นตัวตนนั้น ยังส่งผลไปถึง สถาพจิตใจในการทำงานด้วย เพราะจะช่วยให้เราสนใจ กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ได้มากขึ้น และไม่วอกแว่กไป กับสิ่งอื่นๆ รอบๆ ตัว และเมื่อต้องการพักสายตา ก็ยังมีอีกหลายมุมที่สร้างความสบายใจ ให้กับเราได้ไม่น้อย

3. น้ำ ผลไม้ มีไว้อย่าให้ขาด

     การมีอุปกรณ์กินน้ำติดโต๊ะเอาไว้คืออีกปัจจัยที่จำเป็นอย่างมากในการทำงาน เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วการดื่มน้ำน้อยมีผลทางตรงอย่างมากที่ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลง เพราะเมื่อใดที่ระดับน้ำในร่างกายอยู่ในปริมาณต่ำ หรือใกล้สู่ช่วง Dehydration (สภาวะร่างการขาดน้ำ) แล้ว เราก็จะเริ่มรู้สึกเหนื่อย และอ่อนเพลีย ซึ่งพอเข้าโหมดนี้เมื่อใดแล้วคนส่วนมากก็มักจะเข้าใจผิด และหันมาอัดกาแฟแทน ทั้งๆ ที่ร่างกายในตอนนั้นต้องการน้ำ ไม่ใช่คาเฟอีนแต่อย่างใด ซึ่งร่างกายได้รับคาเฟอีนไปมากๆ ก็จะเกิดอาการติดคาเฟอีนและต้องการมากขึ้นๆ ในทุกๆ วันแบบไม่รู้ตัว

4.ต้นไม้ช่วยปรับสภาพแวดล้อมได้ดี

     อย่างที่รู้กันว่าในช่วงกลางวันต้นไม้นั้นจะช่วยสร้างอากาศที่ดีจากออกซิเจนที่ปล่อยออกมา ซึ่งไม่ว่าจะเป็น Outdoor หรือ Indoor ต้นไม้นั้นก็ยังคงทำหน้าที่เดียวกัน นั่นจึงส่งผลให้การมีต้นไม้ หรือพื้นที่สีเขียวบริเวณโต๊ะทำงานอยู่บ้าง ก็จะช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ที่จะส่งผลไปถึงการทำให้หัวปลอดโปร่ง และลดความเครียดลง จนกระทั่งมีผลการวิจัยออกมาว่า การที่ออฟฟิศมีพื้นที่สีเขียว ในบริเวณที่ทำงาน หรือที่โต๊ะของพนักงานเองนั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 15% เลยทีเดียว

5. ตัดขาดจากสิ่งรบกวนต่างๆ

     กรณีที่ทำงานอยู่บ้านแล้วมีห้องส่วนตัวก็คงไม่มีปัญหา แต่โดยส่วนมากแล้วในหลายๆ ออฟฟิศกลับต้องพบกับความวุ่นวายรอบๆ ตัว ทั้งการพูดคุยข้ามหัวกันไปมา บางรายก็มีการร้องเพลงแถมมาให้อีก ในตอนที่ไม่ต้องโฟกัสกับงานก็อาจไม่เป็นปัญหาสักเท่าไร แต่เมื่อใดที่ต้องใช้ความคิดในการทำงานมากๆ นั้น สิ่งรบกวนเหล่านี้ก็จะทำให้เราจดจ่อกับงานตรงหน้าได้ยาก โดยทางแก้ง่ายๆ ก็คือการหาพื้นที่ที่มีความสงบให้ตัวเอง

กลับสู่หน้าหลัก – savecyber